เจอ คู่บุญตัวจริง แต่ ติดที่มีคู่ครองอยู่แล้ว

การที่เราจะพบเจอใครสักคนไม่มีความบังเอิญ มีเหตุชักจูงมาแน่นอน ต้องมีก ร ร มที่สัมพันธ์กัน ถ้าหากจะเป็นคู่กันก็ต้องไม่พ้นเคยเกื้อกูลกันมา ทั้งในอดีตชาติ และในปัจจุบันชาติ

เรียกว่า บุพเพสันนิวาส

แต่ถ้าหากการคิดจะน อ กใจคู่ครอง แล้วอ้างเหตุผลว่าเป็นบุพเพสันนิวาส นั้นคงไม่น่าจะใช่ แต่เป็นเพราะกามรา ค ะที่ ซาบซ่านอยู่ในกมลสั นด า นของสัต ว์โ ล กโดยทั่วไป เป็นแรงผลักดันให้อารมณ์เตลิดไปกับกามคุณ เพลิดเพลิน ติดใจ ยินดี อะไรที่ยังไม่เคยได้ ก็อยากใคร่ได้ ใคร่สัมผัส เสาะหาช่องซ่อ งเส พโดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบ ชั่วดีแล้วคู่บุญนี่ต้องมาในเวลาที่ใช่

เวลาที่ใช่ คือ ทั้งสองพร้อมที่จะเคียงคู่กัน โดยต่างฝ่ายต้องไม่มีพันธะผูกพันกับใคร ต้องมาเพื่อเกื้อกูล ส่งเสริมกันให้เจริญขึ้นไป ไม่ใช่เข้ามาแล้วกลายเป็นให้เราผิ ดศีล ผิ ดธ รรม นำพากันและกันให้ร่วงลงต่ำ ถ้าอย่างนั้น คงเป็นคู่เวรกันเสียม า ก กว่า แล้วคู่ลักษณะนี้ จะมีแรงดึงดูดระหว่างกันมาก จนเผลอทึกทักไปว่า คนนี้ คือ คู่แท้ของตัวเอง นั่นเป็นเพราะกรรมเขา จัดสรรให้ต้องมาเจอกันเพื่อชดใช้กรรมที่มีต่อกัน

ทำอย่างไรถึงจะต้านความอ ย า กที่มันรุมเร้าได้ การจะต้านกระแส กิเ ล ส จะยับยั้งได้ ก็ต้องมีกำลังสติที่มากพอตัว
พิจารณาให้เป็นโทษภัยที่จะตามมา แล้วเด็ดขาดกับความรู้สึกของตัวเอง เมื่อรู้ว่าช่องทางไหนจะเป็นทางให้เรามีโอกาส
พลาดท่าเสียทีกิเลสตน ก็พยายามอย่าเปิดช่อง ให้ตนเองได้สบโอกาส เพื่อกระทำสิ่งที่ผิดศีลธรรม ครองคู่กันแบบชอบธรรม
ก็ทุกข์ร้อนกันพอตัวด้วยการดำเนินชีวิตอยู่แล้ว แล้วคร อ งคู่กันแบบผิดศี ล ผิ ดธร รม มันจะทุ ก ข์ร้อนขนาดไหน

แล้วรู้ได้อย่างไรว่า ถ้าเรา เ ลิ กกับคนเก่าไปอยู่กับคนใหม่ มันจะมีความสุข มันจะสวยงาม ไปได้อีกกี่มากน้อย สุขชั่วคราว แต่ความทุกข์ใจที่สาหัสอาจจะตามมาก็ได้ อย่าอาศัยแค่ความอ ย า กเป็นตัวชักนำ ให้ล่วงละเมิดเพราะในท้ายที่สุด เราก็วนเวียนอยู่ในว ง จ รช้ำรักแบบไม่มีวันจบสิ้น

Cr. ธรรมมะ สวัสดี สุขกาย สบายใจ